ทริปเดียวครบทั้งเที่ยวและเรียนรู้ เส้นทาง Food Tourism กับคณะวิทย์ฯ ม.หอการค้าไทย
Student blog — 07/05/2025

การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Innovative Food Tourism) คือการผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงอาหารกับนวัตกรรมใหม่ๆ กล่าวคือ เป็นการเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น โดยอิงกับนวัตกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใคร โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้:
- อาหารและเครื่องดื่ม: เมนูที่เป็นเอกลักษณ์และวัตถุดิบท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาให้มีความทันสมัย
- เทคโนโลยี: การใช้เทคโนโลยีในการนำเสนออาหาร เช่น การใช้แอปพลิเคชันในการสั่งอาหารหรือการใช้เทคโนโลยี AR/VR ในการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยว
- วัฒนธรรมและประเพณี: การนำเสนอวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นผ่านอาหาร
- ประสบการณ์: การสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ เช่น การทำอาหารร่วมกับเชฟชื่อดังหรือการชิมอาหารในสถานที่ที่มีบรรยากาศพิเศษ
การปักหมุดสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร คือการรวบรวมสถานที่ที่จะไปไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหาร แล้วนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวให้เห็นถึงความสำคัญ และจัดเป็นแผนการท่องเที่ยวขึ้นมา อาจจะเป็น 1 วัน หรือ 3 วัน 2 คืนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าสถานที่ที่จะไปมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน สามารถบรรจุได้ในเวลากี่วัน และที่สำคัญที่ห้ามลืม คืองบประมาณด้วยค่ะ
เราลองมาปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารในกาญจนบุรีกันดูว่าจะมีโปรแกรม one day trip อะไรที่น่าสนใจบ้าง ก่อนอื่นคงต้องเริ่มจากหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอาจจะเป็นในแง่ประวัติศาสตร์ ตำนานที่มีมาแต่ครั้งโบราณแต่มีการผสมผสานปรับปรุงให้มีความโดดเด่นและน่าสนใจที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวอยากเข้าไปสัมผัส อยากเข้าไปมีส่วนร่วมว่า “ครั้งหนึ่งฉันเคยไปมาแล้ว” หรืออาจเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่ดึงเอาสิ่งที่เป็น signature ของท้องถิ่นหรือของจังหวัดเข้ามาประกอบในพื้นที่ด้วย เช่น สวนสาธารณะที่มีการสร้างสิ่งปฏิมากรรมที่เป็นสัญญลักษณ์ของพื้นที่ไว้ที่นั่น และสิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือร้านอาหารที่แสนอร่อย เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ
1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแควสร้างขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟของกองทัพญี่ปุ่น จากสถานีชุมทางหนองปลาดุก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ไปเมืองธันบูซายัต ประเทศพม่า ซึ่งการสร้างทางรถไฟเส้นทางดังกล่าว บางแห่งต้องทำสะพานข้ามน้ำลึกและเชี่ยวกราก กองทัพญี่ปุ่นเลือกสร้างสะพานข้ามน้ำแควใหญ่ที่บริเวณบ้านท่ามะขาม (สมัยนั้นเรียกว่าบ้านท่าม้าข้าม) ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี เนื่องจากพื้นดินด้านล่างมีความหนาแน่น ระยะแรกสร้างเป็นสะพานไม้ชั่วคราวก่อน ห่างจากสะพานปัจจุบัน 100 เมตร ใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 เดือน ต่อมา สร้างเป็นสะพานเหล็กถาวรโดยนำเหล็กจากมะลายูมาประกอบกัน วางรางโดยเชลยศึกชาวอังกฤษ สะพานมีความยาวทั้งหมด 300 เมตรแบ่งเป็น 11 ช่วงตอม่อคอนกรีต เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2487 ในระหว่างสงครามสะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศโดยการทิ้งระเบิดอย่างหนักจนสะพานหักท่อนกลาง ซึ่งต่อมาญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2488
2. น้ำตกเอราวัณ น้ำตกสีเขียวมรกตที่สวยงามและเป็นที่นิยม ชุ่มชื่นกันต่อด้วยการเที่ยวน้ำตกเอราวัณ น้ำตกชื่อดังที่พลาดไม่ได้ของจังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกสีเขียวมรกตสดใส ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 500 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 – 400 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นสวยมากๆ และมีบริเวณให้เล่นน้ำได้ มีน้ำตลอดปี
3. โรงงานกระดาษไทย กาญจนบุรี ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นสถาปัตยกรรมที่ผ่านช่วงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานกระดาษเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2481 ซึ่งประเทศไทยได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2484 (ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 8) ถือเป็นโรงงานการกระดาษแห่งที่ 2 ของประเทศไทย (ก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ. 2466 ไทยมีโรงงานกระดาษแห่งแรกเปิดดำเนินการที่ตำบลสามเสน กรุงเทพมหานคร) เป็นอาคารทรงทันสมัยในยุคสมัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสังคมจากเกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรมของกาญจนบุรี เป็นแหล่งชุมชนที่มีเรื่องราวและอิทธิพลต่อสังคมในเมืองกาญจนบุรีในสมัยนั้น
4. ร้านอาหารโกกุ๊ก อาหารเช้าเวียดนามหนึ่งเดียวที่ใครๆก็พูดถึงของจังหวัดนี้ ราคาต่อหัวต่ำกว่า 100 บาท เมนูเด็ดคือ ไข่กระทะ ครบเครื่อง เครื่องมาแบบเน้นๆ แน่นๆ
5. ร้านอาหารครัวชุกโดน ร้านอาหารชื่อดังริมแม่น้ำแม่กลองและสวนต้นไม้ร่มรื่น ที่มีอาหารไทยและอาหารทะเลให้ลิ้มลอง เมนูแนะนำคือ “ปลากะพงทอดน้ำปลา” “หอยกระทะร้อน” และ “ต้มยำกุ้ง”
6. ร้านอาหารคีรี ธารา ร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เมนูแนะนำคือ “ขาหมูทอด” และ “ยำวุ้นเส้น” เป็นร้านอาหารกาญจนบุรีที่ตั้งอยู่ริมสะพานแม่น้ำแคว เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีมากๆ ตกแต่งร้านด้วยสไตล์เกาหลี คุมโทนด้วยสีเข้ม สำหรับเมนูอาหาร ทางร้านเน้นให้บริการอาหารไทย และอาหารท้องถิ่น ที่คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี
จากข้อมูลที่รวบรวมมาเราจัดโปรแกรม One Day Trip แบบประหยัดในกาญจนบุรีดังนี้
เช้า
- 07:00 น. เดินทางถึงกาญจนบุรี แวะทานอาหารเช้าที่ร้านโกกุ๊ก
- 08:30 น. ถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว
- 10:00 น. เดินทางไปถ่ายรูปที่โรงงานกระดาษไทย
เที่ยง
- 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารครัวชุกโดน
บ่าย
- 14:00 น. เยี่ยมชมน้ำตกเอราวัณ
เย็น
- 17:30 น. รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารคีรี ธารา
- 20:00 น. เดินทางกลับ
งบประมาณค่าใช้จ่าย
- ค่าเดินทาง: ประมาณ 200-500 บาท (รถไฟหรือรถยนต์)
- ค่าอาหาร: ประมาณ 300-500 บาท
- ค่าตั๋วเข้าชมสถานที่: ประมาณ 100-200 บาท
- รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด: ประมาณ 600-1,200 บาทต่อคน
เป็นอย่างไรบ้างคะกับการปักหมุดกาญจนบุรี ใน 1 วัน ด้วยงบที่ประหยัด ซึ่งเราสามารถนำหลักการนี้ไปปักหมุดกับการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่จังหวัดต่างๆ หรือชุมชนที่เราคุ้นเคยเพื่อกระตุ้นยอดการท่องเที่ยวในแหล่งชุมชน หรือแหล่งวัฒนธรรมต่างๆให้เพิ่มมากขึ้น
น้องๆที่อยากมาสัมผัสและเรียนรู้การปักหมุดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอาหารในบรรยากาศที่หลากหลายในแต่ละชุมชนของแต่ละจังหวัด มาพบกันที่หลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหารและนวัตกรรม กลุ่มวิชาเอกเทคโนโลยีทางอาหาร และ กลุ่มวิชาเอกนวัตกรรมอาหาร สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ จากสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหารและนวัตกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทางช่องทางด้านล่างนี้ รอพบน้องๆอยู่นะคะ
- Website: https://science.utcc.ac.th/major_fti
- Facebook Page: https://www.facebook.com/FoodTechInnovationUTCC/
- YouTube: https://www.youtube.com/@foodtechnologyandinnovatio2253
- TikTok: https://www.tiktok.com/@fti_utcc
- IG: https://instagram.com/fti_utcc
#เทคโนโลยีอาหารและนวัตกรรม #fti_utcc #scitech_utcc #foodscience #foodtech #foodinnovation #UTCC #เด็กหัวการค้า #มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย #หอการค้า #หอการค้าไทย#TCAS #เด็กซิ่ว #ทุนการศึกษา #dek69