นมจากพืช หรือ Plant-based Milk คืออะไร

โดยปกติแล้วทุกคนก็คงจะเคยดื่มนมโคหรือรับประทานผลิตภัณฑ์นมจากนมโคกัน ไม่ว่าจะเป็น นมไทย-เดนมาร์ก สัญลักษณ์วัวแดง หรือนมหนองโพ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงให้จัดตั้งโรงนมขึ้น รวมทั้งแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถบริโภคนมโคได้ อาจเนื่องจากแพ้น้ำตาลแลกโทสในนม ซึ่งปัจจุบันก็มีการผลิตนมปราศจากแลกโทสจำหน่ายทั่วไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มที่มีอาการแพ้นมวัวเนื่องจากโรคภูมิแพ้ที่แพ้โปรตีนในนม ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่สามารถบริโภคนมวัวได้ จึงต้องบริโภคนมจากพืชแทน รวมทั้งกลุ่มผู้ที่ทานมังสวิรัติอีกด้วย

นมจากพืชที่เรารู้จักกันดีก็คือ นมถั่วเหลือง หรือที่เรียกว่า น้ำเต้าหู้ นั่นเอง แต่จริงๆแล้วนมจากพืชสามารถทำได้จากพืชหลายชนิด ทั้งจากธัญพืช และถั่วต่างๆ นำมาบดรวมกับน้ำเพื่อให้กลายเป็นของเหลวขุ่นคล้ายน้ำนม ได้แก่

นมจากธัญพืช ได้แก่

นมจากถั่วเมล็ดแห้ง ได้แก่

นมจากถั่วเปลือกแข็ง ได้แก่

นมจากพืชอื่น ได้แก่

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์นมจากพืชแพร่หลายมากขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารและมีจำหน่ายทางการค้ามากมาย ทั้งในรูปแบบพาสเจอร์ไรส์ ที่ต้องแช่เย็น และแบบ UHT ที่เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น ทั้งน้ำนมจากพืช รวมทั้งผลิตภัณฑ์นมจากพืชอื่นๆ เช่น โยเกิร์ต ไอศกรีม และชีส เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากนมวัวหรือนมจากพืชล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้โปรตีนสูง ตามข้อแนะนำในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 182 พ.ศ.2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ กรมอนามัยได้ จัดทำข้อกำหนดสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคในหนึ่งวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปี ขึ้นไปที่ควรได้รับ (Recommended Daily Dietary Allowances for Healthy Thais) หรือ RDA โดยกำหนดให้ต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี ทั้งนี้ความต้องการพลังงานที่แท้จริงต่อวันของแต่ละคนอาจน้อยหรือมากกว่า 2,000 กิโลแคลอรีได้ และกำหนดให้ควรทานโปรตีนอย่างน้อยวันละ 50 กรัม แล้ววันนี้ “คุณดื่มนมหรือยังคะ?”