จบ ม.6 ก็เรียนได้ เส้นทางสู่อาชีพผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ (Rehab Aide) ที่ไม่ต้องจบสายวิทย์

จากศูนย์สู่เส้นชัย เส้นทางอาชีพผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ (Rehab Aide) ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ากำลังมาแรง!

ในยุคที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หนึ่งในอาชีพที่เติบโตเร็วและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ คือ “ผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ” หรือที่เรียกว่า Rehab Aide อาชีพนี้อาจดูเหมือนอยู่เบื้องหลัง แต่กลับเป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบการแพทย์และการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในยุคหลังโควิด-19 ที่จำนวนผู้ต้องการฟื้นฟูสุขภาพพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

วันนี้เราขอพาคุณไปรู้จักกับอาชีพ Rehab Aide ผ่านเรื่องราวของ “บาส” นักเรียนหนุ่มจากต่างจังหวัดที่จบสายอาชีพมา และสามารถสมัครเข้าเรียนหลักสูตร Rehab Aide ได้ไม่ต่างจากเพื่อน ๆ สายวิทย์หรือสายศิลป์ ด้วยความฝันอยากมีอาชีพมั่นคงและได้ช่วยเหลือผู้คน เขาจึงเริ่มต้นเส้นทางชีวิตใหม่ที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะพาเขาไปไกลถึงขนาดนี้

จุดเริ่มต้นของบาส เมื่อโอกาสมาถึงคนตั้งใจ

บาสเคยเป็นนักเรียนสายอาชีพที่จบ ปวช. สาขาการบัญชี ด้วยคะแนนดี แต่กลับรู้ตัวว่าไม่อยากทำงานเอกสารไปตลอดชีวิต เขาชอบช่วยเหลือคน ชอบเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกาย และมักดูวิดีโอเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุและการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

จนวันหนึ่งเขาได้ยินเพื่อนพูดถึงหลักสูตรผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพที่เปิดรับนักเรียนทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสายวิทย์-คณิต สายศิลป์-ภาษา หรือแม้แต่สายอาชีพก็สามารถสมัครเรียนได้ บาสจึงตัดสินใจลองค้นหาข้อมูล และพบว่าหลักสูตรนี้ใช้เวลาเรียนเพียง 3.5 ปี ซึ่งเทียบเท่ากับระดับปริญญาตรีแถมยังเรียนรู้ได้แบบลงมือปฏิบัติจริงตลอดหลักสูตร เขาจึงสมัครเรียนทันที โดยตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้ในการเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น

หลักสูตร Rehab Aide เส้นทางสู่มืออาชีพ

หลักสูตรผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพที่บาสเข้าเรียนนั้น ใช้เวลาเรียนทั้งสิ้น 3.5 ปี (วุฒิการศึกษา วิทยาศาสตร์บัณฑิต) มีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์มาก่อน เพราะหลักสูตรออกแบบมาให้เริ่มตั้งแต่ศูนย์ และพัฒนาความรู้ควบคู่กับทักษะจริง

หัวข้อการเรียนที่สำคัญ ได้แก่

• กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาเบื้องต้น
• เทคนิคการเคลื่อนย้ายและฟื้นฟูผู้ป่วย
• การดูแลผู้ป่วยระบบทั้งระบบกระดูกกล้ามเนื้อ ระบบประสาท หัวใจและหลอดเลือด หรือผู้ป่วยภาวะวิกฤติ
• การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง 
• การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ฟื้นฟูสุขภาพ
• จิตวิทยาการการเข้าใจผู้ป่วย ญาติ และสหสาขาวิชาชีพ
• ทักษะการสื่อสารและจรรยาบรรณวิชาชีพ

นักเรียนยังมีโอกาสออกฝึกงานในสถานพยาบาลจริง เช่น โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง คลินิกกายภาพบำบัด หรือศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุ เพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและฝึกฝนทักษะอย่างใกล้ชิดกับทีมผู้เชี่ยวชาญ

โอกาสการทำงาน งานดี รายได้เสถียร

หลังจากจบหลักสูตร บาสสามารถสมัครงานได้ในหลายแห่ง ทั้งในคลินิกเอกชน โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือแม้กระทั่งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ โดยมีรายได้เริ่มต้นเฉลี่ยประมาณ 15,000 – 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามประสบการณ์และสถานที่ทำงาน

งานของเขาคือการดูแลผู้ป่วยและช่วยฟื้นฟูผู้ป่วย เช่น ฝึกเดิน ประคองร่างกาย ใช้อุปกรณ์ช่วยฟื้นฟู และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

อาชีพนี้กำลังเป็นที่ต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคสังคมผู้สูงวัยที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่เต็มรูปแบบ

โอกาสในการต่อยอด ทั้งในและต่างประเทศ

หลังจากทำงานได้ระยะหนึ่ง บาสเริ่มรู้ว่าทักษะของเขาสามารถต่อยอดได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

• เรียนต่อในหลักสูตรนักกายภาพบำบัด หรืองานเวชศาสตร์ฟื้นฟู
• เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น นักกายภาพบำบัด วิชาชีพเวชศาสตร์ฟื้นฟู
• ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่มีค่าตอบแทนสูงขึ้นถึง 30,000 – 50,000 บาท
•  รับงานนอกเวลาแบบฟรีแลนซ์ ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Health Care) ซึ่งสามารถคิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง เช่น 300 – 500 บาทต่อชั่วโมง 
• เปิดเพจให้ความรู้หรือรับเคสส่วนตัวแบบฟรีแลนซ์

สำหรับต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น แคนาดา และออสเตรเลีย มีการเปิดรับบุคลากรสายฟื้นฟูสุขภาพอย่างต่อเนื่อง หากสามารถสอบเทียบวุฒิหรือผ่านการอบรมตามที่แต่ละประเทศกำหนด ก็สามารถมีรายได้สูงถึง 70,000 – 120,000 บาทต่อเดือน

ช่องทางการทำธุรกิจและสร้างรายได้แบบ Passive

บาสเริ่มขยับไปสู่การทำธุรกิจเล็ก ๆ โดยใช้ความรู้จากการเรียนมาสร้างคอนเทนต์สุขภาพผ่าน YouTube และ TikTok เช่น คลิปการยืดเส้นง่าย ๆ ที่บ้าน วิธีดูแลผู้สูงอายุ หรือรีวิวอุปกรณ์กายภาพ

เขายังเริ่มเปิดคอร์สออนไลน์เล็ก ๆ เพื่อสอนคนทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเบื้องต้น และขายอุปกรณ์ฟื้นฟูง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

รายได้ของเขาจึงเริ่มไหลเข้ามาจากหลายทาง ทั้งงานประจำ ค่าคอร์ส รายได้จากโซเชียล และค่าคอมมิชชันจากการขายสินค้า

เส้นทางการเรียนต่อ จากผู้ช่วยสู่ผู้เชี่ยวชาญ

บาสยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เขาตัดสินใจสมัครเรียนต่อในหลักสูตรนักกายภาพบำบัดภาคพิเศษสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งสามารถเรียนต่อจากพื้นฐานที่เขามีได้ทันที

นอกจากนี้ ยังสามารถต่อยอดไปเป็น:

• นักกายภาพบำบัด
• นักกิจกรรมบำบัด
• นักเวชศาสตร์ฟื้นฟู
• โค้ชสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย
• เทรนเนอร์ดูแลสุขภาพ
• วิทยากรอบรมหรืออาจารย์ในสายสุขภาพ

เขายังเข้าร่วมอบรมและเวิร์กชอปจากองค์กรระหว่างประเทศ เพื่ออัปเดตความรู้และทักษะอยู่เสมอ

Rehab Aide อาชีพเล็ก ๆ ที่สร้างอนาคตยิ่งใหญ่

เรื่องราวของบาสเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไม่ว่าคุณจะมาจากสายการเรียนไหน ก็สามารถเริ่มต้นเส้นทางอาชีพสายสุขภาพได้หากมีความตั้งใจ อาชีพผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพไม่ใช่แค่งานดูแลคนป่วย แต่เป็นอาชีพที่ให้คุณได้ช่วยเหลือสังคม ได้รายได้มั่นคง และสามารถเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด

หากคุณกำลังมองหาอาชีพที่มั่นคง รายได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านสุขภาพ และสามารถเริ่มต้นได้ทันทีหลังจบ ม.6 หรือ ปวช. หลักสูตรผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

เพราะอนาคตที่ยิ่งใหญ่… เริ่มได้จากก้าวเล็ก ๆ ที่กล้าตัดสินใจในวันนี้

เพราะบางครั้ง การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ วันนี้ อาจพาคุณไปสู่อนาคตที่ยิ่งใหญ่เกินฝันในวันข้างหน้า

………………………………….

สนใจในวิชาชีพผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพติดต่อได้ที่

คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

เว็บไซต์สาขาวิชาสหวิทยาการ ผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ:

 https://science.utcc.ac.th/major_ids/​คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย+1คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย+1

Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=61550664284423  

เว็บไซต์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี:

 https://science.utcc.ac.th/​คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 

#ผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ #RehabAide #อาชีพสายสุขภาพมาแรง #เรียน RehabAide3.5ปี #สมัครเรียนผู้ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ #รายได้RehabAide #เรียนต่อสายสุขภาพ #งานด้านสุขภาพไม่ต้องจบวิทย์ #เรียนฟื้นฟูสุขภาพสำหรับสายอาชีพ #อาชีพดูแลผู้สูงอายุ #สหวิทยาการ #คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี #UTCC